
โภชนาการในผู้สูงอายุเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งต่อการดำรงชีวิตเพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรง เป็นการลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพระยะยาว เพื่อไว้เป็นกำลังสำรองในภาวะที่มีการเจ็บป่วย และเสริมสร้างให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้นภายหลังการเจ็บป่วย นอกจากนั้นภาวะโภชนาการในผู้สูงอายุยังต้องคำนึงถึงอาหารที่ปลอดภัย มีประโยชน์ ครบถ้วน และเหมาะสมกับผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตามผู้สูงอายุนั้นมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจในทางที่เสื่อมลงทำให้เกิดปัญหาด้านโภชนาการได้ นอกจากนั้นยังมีผู้สูงอายุหลายรายได้รับสารอาหารที่เกินความจำเป็น ทำให้มีการสะสมไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกายโดยเฉพาะที่ผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ฯลฯ
ความชุกของภาวะทุพโภชนาการในผู้สูงอายุ
มีจำนวนผู้สูงอายุมีภาวะทุพโภชนาการทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง เพศหญิงมักจะมีภาวะโภชนาเกินมากกว่าเพศชาย ภาวะทุพโภชนาการจะพบมากขึ้นเมื่อมีอายุมากขึ้น มีภาวะทุพโภชนาการในโรงพยาบาลและบ้านพักคนชราจะพบได้มากกว่าในชุมชุน เนื่องจากผู้สูงอายุในชุมชนยังมีสุขภาพที่ดีกว่า ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงสูงมีโอกาสเกิดภาวะทุพโภชนาการได้สูงกว่าผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงต่ำ
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อภาวะโภชนาการของผู้สูงอายุ
ประกอบด้วย ปัจจัยต่างๆ คือ (วีรศักดิ์ เมืองไพศาล. لعبة القمار بوكر 2557) 1. ปัจจัยทางกายภาพ ในผู้สูงอายุจะมีการเสื่อมถอยในระบบต่างๆ ของร่างกายโดยจะมีความเกี่ยวข้องกับปัญหาโภชนาการ ได้แก่ 1.1 ระบบประสาท พบว่า ภาวะสมองเสื่อม (Dementia:ดีเมนเทีย) โรคการเคลื่อนไหวผิดปกติ (Movement disorder:มูวเมนท์ ดิสออร์เดอร์) เช่น โรคพาร์คินสัน (Parkinson disease:พาร์คินสัน ดีซีส) และโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke:สโตร๊ค) โรคกลุ่มนี้จะมีความชุกเพิ่มเมื่ออายุมากขึ้นและอาจทำให้เกิดภาวะทุพโภชนาการได้เพิ่มมากขึ้น มีการศึกษาพบว่าโรคสมองเสื่อมมีความสัมพันธ์กับภาวะทุพโภชนาการในผู้สูงอายุ และพบว่าความเสื่อมถอยของระบบประสาทสัมผัส เช่น การมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การรับรส การเคี้ยวบดอาหารและการกลืนมีส่วนทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะทุพโภชนาการด้วย 1.2 ปัญหาสุขภาพในช่องปาก การรับประทานอาหารได้ดีนั้นขึ้นอยู่กับฟันของผู้สูงอายุด้วย ถ้ามีฟันเหลือน้อยกว่า 20 ซี่ โอกาสจะเกิดภาวะทุพโภชนาการจะสูงขึ้น เนื่องจากการเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดจะส่งผลต่อการย่อยและการดูดซึมสารอาหาร การมีสุขภาพช่องปากที่ดีช่วยป้องกันโรคปอดบวมที่เกิดจากการสำลักอาหารได้ การอักเสบในช่องปากจะทำให้ไม่อยากรับประทานอาหาร เบื่ออาหาร เสี่ยงต่อภาวะทุพโภชนาการ การรักษาความชุ่มชื้นในช่องปากจะช่วยป้องกันปัญหาได้ อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุมีโอกาสเกิดภาวะโภชนาการเกินได้จากการเปลี่ยนแปลงตามกระบวนการสูงอายุ คือจำนวนฟันและคุณภาพฟันที่ใช้บดเคี้ยวอาหารลดลง ผู้สูงอายุบางรายจึงเลือกรับประทานอาหารประเภทแป้งมากขึ้น เพราะเคี้ยวและกลืนง่าย แต่หลีกเลี่ยงการรับประทานประเภทผักเนื่องจากเคี้ยวยาก จึงทำให้ได้รับพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตมากเกินความต้องการของร่างกายส่งผลให้เกิดภาวะโภชนาการเกิน 1.3 ระบบทางเดินอาหาร ผู้สูงอายุจะมีการรับรสที่ลดลง น้ำย่อยหลั่งออกมาน้อยลง มีปัญหาในการบดเคี้ยว การกลืน และการย่อยที่ผิดปกติได้บ่อย นอกจากนั้นโรคของระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคแผลในกระเพาะอาหาร โรคนิ่วถุงน้ำดี รวมถึงการดูดซึมอาหารที่มีประสิทธิภาพลดลง ทำให้มีปัญหาท้องอืดและท้องผูกได้มากกว่าวัยอื่น 1.4 โรคประจำตัว ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวจะมีผลต่อความอยากอาหาร เช่น โรคมะเร็ง โรคไตวาย โรคหัวใจวาย โรคข้ออักเสบ และภาวะซึมเศร้า ฯลฯ และทำให้เกิดภาวะทุพโภชนาการตามมา 1.5 การใช้ยาหลายชนิด ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวหลายโรค ส่งผลให้ต้องกินยาหลายชนิด จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงของยา เช่น 1.5.1 ผลข้างเคียงที่ทำให้เบื่ออาหาร เช่น ยากันชัก ยาต้านอารมณ์ซึมเศร้า ยากลดน้ำมูก ยารักษาโรคพาร์กินสัน ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด (Metformin:เมทฟอร์มิน) ยาขยายหลอดลม มอร์ฟีน ยาแก้แพ้บางชนิด 1.5.2 ผลข้างเคียงที่ทำให้ปากแห้ง คอแห้ง เช่น ยาแก้แพ้ ยากขับปัสสาวะ 1.5.3 ผลข้างเคียงที่ทำให้การรับรสและกลิ่นเปลี่ยนไป เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาลดกรดยูริค (Allopurinol:ออโลพูริโนล) ยาลดความดันโลหิต ยาปฏิชีวนะบางชนิด ยากแก้แพ้ ยากันชัก ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด (Metformin:เมทฟอร์มิน) ยารักษาโรคพาร์กินสัน 1.5.4 ผลข้างเคียงที่ทำให้กลืนลำบาก เช่น ยารักษาภาวะกระดูกพรุน (Bisphosphonate:บิสฟอสโฟเนท) ยาปฏิชีวนะด็อกซีไซคลิน (Doxycycline) ยากรักษาโรคพาร์คินสัน ยาแก้ปวดกลุ่มไม่ใช่สเตรียรอยด์ (Non-steroidal anti-inflammatory:NSAIDs เช่น ไอบูโปเฟน ไดโคลฟีเนค แอสไพริน ไพร็อคซิแคม ฯลฯ) 1.5.5 ผลข้างเคียงที่ทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เช่น ยาปฏิชีวนะบางชนิด ยารักษาภาวะกระดูกพรุน ยารักษาภาวะสมองเสื่อม ยาโรคพาร์กินสัน ยาบำรุงธาตุเหล็ก ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด มอร์ฟีน ยากันชัก ยาต้านอารมณ์ซึมเศร้า ยาขยายหลอดลม
2. ปัจจัยทางด้านจิตใจและอารมณ์ ความเจ็บป่วยทางด้านร่างกายจะมีผลลบต่อด้านจิตใจและมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึก ผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรังหลายโรคและเป็นมานานมักมีปัญหาเรื่องสุขภาพจิตและอารมณ์ด้วยเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องอยู่ในสภาวะพึ่งพิง จะรู้สึกไร้คุณค่าในตนเอง อารมณ์หมดหวัง เครียด ท้อแท้ ไร้ความสุข ซึมเศร้า จะส่งผลให้มีอาการเบื่ออาหาร หากเป็นในระยะเวลานานจะทำให้เกิดภาวะทุพโภชนาการได้ วิธีการแก้ไขคือควรหากิจกรรมให้ผู้สูงอายุได้ทำ เพื่อสร้างความเพลิดเพลิน ออกกำลังกายตามสภาพที่เหมาะสม มีเวลาให้เล่นสนุกกับลูกหลาน เป็นต้น
3. ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยจะไม่สามารถซื้ออาหารสำหรับบริโภคได้อย่างเหมาะสมเพียงพอ ปัจจัยทางด้านสังคมและวัฒนาธรรม มีผลต่อเรื่องของความเชื่อในเรื่องการบริโภคอาหารซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น (ดวงกมล วิรุฬห์อุดมผล และพรพิมล ภูมิฤทธิกุล, 2020) เช่น ความเชื่อที่ว่าผู้สูงอายุไม่ควรบริโภคหรือบริโภคอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ หรือนมวัว เพราะจะทำให้เป็นมะเร็ง ซึ่งไม่เป็นความจริง ยกเว้นเนื้อสัตว์แปลรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน แฮม กุนเชียง และอาหารไหม้เกรียม หากบริโภคบ่อยๆ จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ หรือความเชื่อที่ว่าผู้สูงอายุควรได้รับอาหารเสริมหรือวิตามินเพิ่ม ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะหากผู้สูงอายุได้รับอาหารครบทั้ง 5 หมู่ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว (ไอศวรรย์ เพชรล่อเหลียน, 2563) นอกจากนั้นหากผู้สูงอายุที่ขาดคนคอยดูแลก็จะมีความเสี่ยงที่เกิดภาวะทุพโภชนาการได้ เช่น ไม่สามารถออกไปหาซื้ออาหารได้เอง หรือขาดความสามารถในการเตรียมหรือปรุงอาหารได้เอง เป็นต้น